top of page

กินอาหารเสริมหรือสมุนไพรระหว่างรักษามะเร็งเต้านม

กินอาหารเสริมหรือสมุนไพรระหว่างรักษามะเร็งเต้านม: เสี่ยงมากกว่าได้...ทำไมควรหลีกเลี่ยง?


การรักษามะเร็งเต้านม ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัด เคมีบำบัด การฉายรังสี หรือการใช้ยามุ่งเป้า ล้วนเป็นกระบวนการที่ถูกออกแบบมาอย่างแม่นยำเพื่อกำจัดเซลล์มะเร็งและควบคุมโรค แต่การใช้อาหารเสริมหรือสมุนไพรควบคู่ไปกับการรักษาเหล่านี้ โดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี และอาจลดประสิทธิภาพของการรักษาหลักได้อย่างคาดไม่ถึง



อาหารเสริมกับมะเร็งเต้านม
อาหารเสริมกับมะเร็งเต้านม

ทำไมจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารเสริมหรือสมุนไพรระหว่างการรักษามะเร็งเต้านม?

1. ปฏิกิริยาระหว่างยา: มฤตยูเงียบที่แฝงตัว

อาหารเสริมและสมุนไพรหลายชนิดสามารถรบกวนการทำงานของยาที่ใช้ในการรักษามะเร็งเต้านม ทั้งยาเคมีบำบัดและยามุ่งเป้า โดยส่งผลต่อการดูดซึม การกระจายตัว เมแทบอลิซึม และการขับออกของยา ตัวอย่างที่พบได้บ่อย ได้แก่:

  • แปะก๊วย: มีฤทธิ์ชะลอการแข็งตัวของเลือด เพิ่มความเสี่ยงต่อการเลือดออกทั้งระหว่างและหลังการผ่าตัด

  • วิตามินอี: มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือดเช่นกัน หากรับประทานร่วมกับยาต้านการแข็งตัวของเลือดหรือก่อนการผ่าตัด อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะเลือดออกผิดปกติ

  • วิตามินซีในปริมาณสูง: อาจลดประสิทธิภาพของยาเคมีบำบัดบางชนิดที่อาศัยกลไกการสร้างอนุมูลอิสระในการทำลายเซลล์มะเร็ง

  • St. John's Wort: สมุนไพรยอดนิยมที่หลายคนเชื่อว่าช่วยต้านอาการซึมเศร้า แต่สามารถเร่งการทำงานของเอนไซม์ในตับ (Cytochrome P450) ทำให้ยารักษาโรคมะเร็งบางชนิดถูกทำลายเร็วเกินไป และลดประสิทธิภาพลง

2. สมุนไพรต้านการอักเสบ: ดาบสองคมที่อาจทำร้ายตัวเอง

หลายคนเชื่อว่าสมุนไพรที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ เช่น ขมิ้นชัน จะช่วยบรรเทาอาการข้างเคียงจากการรักษา แต่ในความเป็นจริง กระบวนการอักเสบเป็นส่วนหนึ่งของการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่สำคัญในการกำจัดเซลล์มะเร็ง การใช้สมุนไพรเหล่านี้อาจไปรบกวนกลไกการทำงานของยาเคมีบำบัดหรือการฉายรังสี

3. ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ: ประตูสู่การติดเชื้อ

ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการรักษามักมีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ สมุนไพรบางชนิด เช่น เห็ดหลินจือ แม้จะถูกโฆษณาว่าช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน แต่ในผู้ป่วยกลุ่มนี้อาจกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันมากเกินไปจนเกิดการอักเสบที่ไม่พึงประสงค์ หรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

4. ภัยร้ายจากผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน: เสี่ยงต่อสารปนเปื้อน

ตลาดอาหารเสริมและสมุนไพรยังขาดการควบคุมที่เข้มงวด ผลิตภัณฑ์หลายชนิดอาจมีคุณภาพต่ำ ปนเปื้อนสารอันตราย เช่น โลหะหนัก ยาฆ่าแมลง หรือแม้แต่การปลอมปนยาแผนปัจจุบันโดยไม่ระบุบนฉลาก

  • ตัวอย่างกรณีศึกษา: มีรายงานการตรวจพบสารสเตียรอยด์ในผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่อ้างว่าช่วยรักษาโรคมะเร็ง ซึ่งสารสเตียรอยด์สามารถกดภูมิคุ้มกันและเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในผู้ป่วยมะเร็งได้

  • สถิติ: การศึกษาในสหรัฐอเมริกาพบว่าเกือบ 20% ของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมีการปนเปื้อนของสารต้องห้าม หรือไม่ตรงตามที่ระบุบนฉลาก

การปนเปื้อนเหล่านี้อาจทำให้ตับและไตทำงานหนักขึ้น เพิ่มความเสี่ยงต่ออวัยวะล้มเหลว โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดที่อาจส่งผลต่อการทำงานของตับและไตอยู่แล้ว

5. แต่ละบุคคลตอบสนองต่างกัน:

สิ่งสำคัญที่ต้องตระหนักคือ ปฏิกิริยาของแต่ละบุคคลต่ออาหารเสริมและสมุนไพรนั้นแตกต่างกัน ปัจจัยต่างๆ เช่น พันธุกรรม อายุ โรคประจำตัว และยาที่ใช้อยู่ ล้วนส่งผลต่อการตอบสนองต่อสารเหล่านี้ การรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยรายหนึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยอีกราย ดังนั้น การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

แล้วควรดูแลตัวเองอย่างไรระหว่างรักษามะเร็งเต้านม?

  1. ปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง: หัวใจสำคัญคือ การสื่อสารกับแพทย์อย่างเปิดเผย แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับอาหารเสริมหรือสมุนไพรทุกชนิดที่คุณกำลังใช้อยู่ หรือวางแผนจะใช้ แม้ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดูปลอดภัย เช่น น้ำมันปลา หรือวิตามินรวม

  2. โภชนาการสมดุล: เน้นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลากหลาย และครบ 5 หมู่ เน้นผักผลไม้สด ธัญพืชไม่ขัดสี โปรตีนไขมันต่ำ และไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก หรือถั่ว ตัวอย่างเมนูอาหารที่เหมาะสม เช่น ข้าวกล้อง อกไก่ต้ม ผัดผักรวมมิตร แกงจืดเต้าหู้หมูสับ ผลไม้ตามฤดูกาล

    1. ปริมาณสารอาหารที่เหมาะสม: รับประทานอาหารที่ได้รับพลังงาน โปรตีน วิตามิน และเกลือแร่ เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายระหว่างการรักษา ซึ่งความต้องการจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

    2. รับประทานอาหารที่เหมาะสม ปลอดภัย และช่วยบรรเทาอาการข้างเคียงจากการรักษา เช่น หลีกเลี้ยงอาหารทอดเพื่อช่วยเรื่อง อาการคลื่นไส้ เบื่ออาหาร การรับรสเปลี่ยนไป

  3. หลีกเลี่ยงได้ควรหลีกเลี่ยง: หากเป็นไปได้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสมุนไพรทุกชนิดระหว่างการรักษาหลัก จนกว่าแพทย์จะอนุญาต

รอจนจบการรักษา: หากต้องการใช้อาหารเสริมหรือสมุนไพรเพื่อบำรุงร่างกาย ควรเริ่มหลังจากเสร็จสิ้นการรักษาหลักทั้งหมดแล้ว และต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำและการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

Comentarios


Los comentarios se han desactivado.
image.png
bottom of page