top of page

การแปลผลการตรวจชิ้นเนื้อเต้านมด้วยเข็มขนาดใหญ่ (Core Needle Biopsy) รศ.พญ.เยาว

การแปลผลการตรวจชิ้นเนื้อเต้านมด้วยเข็มขนาดใหญ่ (Core Needle Biopsy)

รศ.พญ.เยาวนุช คงด่าน


การตรวจชิ้นเนื้อเต้านมด้วยเข็มขนาดใหญ่ (Core Needle Biopsy) เป็นวิธีที่สำคัญในการวินิจฉัยมะเร็งเต้านม การแปลผลและการรายงานผลการตรวจเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการวางแผนการรักษา บทความนี้จะอธิบายการแปลผลและการรายงานผลการตรวจชิ้นเนื้อเต้านมในกรณีต่าง ๆ รวมถึงแนวทางการจัดการและการวางแผนการรักษาโดยสัมพันธ์กับผลการตรวจทางรังสีและประวัติการตรวจร่างกาย รวมถึงแนวคิดเรื่องความสอดคล้อง (Concordance) และความไม่สอดคล้อง (Non-concordance) ของผลการตรวจ พร้อมกับการจัดการเนื้องอกชนิดต่าง ๆ ที่วินิจฉัยจาก Core Needle Biopsy


การรายงานผลตรวจชิ้นเนื้อเต้านม

  1. B1: เนื้อปกติ (Normal) ชิ้นเนื้อเป็นเนื้อปกติ ไม่ต้องการการดูแลหากผลการตรวจทางรังสี (เช่น แมมโมแกรมหรืออัลตราซาวด์) ยืนยันว่าไม่มีความผิดปกติ สามารถติดตามผลการตรวจสุขภาพประจำปีได้

  2. B2: ไม่ใช่มะเร็ง (Benign) เช่น Fibroadenoma, Cyst หากผลการตรวจทางรังสียืนยันว่าไม่มีความผิดปกติอื่น ๆ แนะนำตรวจสุขภาพประจำปี

  3. B3: มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นมะเร็ง (High-Risk Lesions) เช่นAtypical Ductal Hyperplasia (ADH), Lobular Carcinoma In Situ (LCIS) ควรทำการตรวจชิ้นเนื้อเพิ่มเติมหรือการผ่าตัดเพื่อยืนยันการวินิจฉัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผลการตรวจทางรังสีแสดงความผิดปกติ ควรทำการตรวจชิ้นเนื้อเพิ่มเติมหรือผ่าตัด

  4. B4: น่าสงสัยมะเร็ง (Suspicious of Malignancy) แสดงว่ามีความน่าจะเป็นสูงที่ชิ้นเนื้อที่ตรวจจะเป็นมะเร็งเต้านม ต้องทำการตรวจชิ้นเนื้อเพิ่มเติมหรือการผ่าตัดเพื่อยืนยันการวินิจฉัย ก่อนวางแผนการรักษา

  5. B5: เป็นมะเร็ง (Malignant) เช่น Invasive Ductal Carcinoma (IDC), Invasive Lobular Carcinoma (ILC) ก่อนการเริ่มการรักษา ควรทำการตรวจย้อมพิเศษเพิ่มเติมเพื่อบอกชนิดมะเร็ง ด้วยการย้อมตัวรับฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน(ER, PR) มะเร็งชนิด HER2 และค่าKi-67 เพื่อให้มีการวางแผนการรักษาอย่างครอบคลุม ร่วมกับทีมแพทย์ได้แก่ ศัลยแพทย์เต้านม อายุรแพทย์มะเร็งวิทยาเป็นต้น


ความสอดคล้อง (Concordance) และความไม่สอดคล้อง (Non-concordance)

นอกจากการดูผลตรวจชิ้นเนื้อว่าเป็นชิ้นเนื้อชนิดใดแล้ว ยังต้องพิจารณาถึงความสอดคล้อง (Concordance) และความไม่สอดคล้อง (Non-concordance) กับผลการตรวจภาพทางรังสี(แมมโมแกรมและอัลตราซาวด์) ด้วย

ความสอดคล้อง (Concordance):

  • คำอธิบาย: ความสอดคล้องหมายถึงผลการตรวจชิ้นเนื้อเต้านมที่ตรงกับผลการตรวจทางรังสีและการตรวจร่างกาย

  • การจัดการ: เมื่อผลการตรวจชิ้นเนื้อสอดคล้องกับผลการตรวจทางรังสีและการตรวจร่างกาย แนวทางการจัดการและการวางแผนการรักษาจะดำเนินไปตามผลการตรวจชิ้นเนื้อ

    • ตัวอย่าง: หากผลการตรวจชิ้นเนื้อและการตรวจทางรังสีแสดงว่ามีก้อนเนื้อที่ไม่เป็นอันตราย ทำการติดตามประจำปี

ความไม่สอดคล้อง (Non-concordance):

  • คำอธิบาย: ความไม่สอดคล้องหมายถึงผลการตรวจชิ้นเนื้อเต้านมที่ไม่ตรงกับผลการตรวจทางรังสีหรือการตรวจร่างกาย

  • การจัดการ: เมื่อผลการตรวจชิ้นเนื้อไม่สอดคล้องกับผลการตรวจทางรังสีและการตรวจร่างกาย จำเป็นต้องมีการตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุและวินิจฉัยให้แน่ชัด

    • ตัวอย่าง: หากผลการตรวจทางรังสีแสดงว่ามีก้อนเนื้อที่สงสัยว่าเป็นมะเร็ง แต่ผลการตรวจชิ้นเนื้อไม่พบเซลล์มะเร็ง จำเป็นต้องทำการตรวจชิ้นเนื้อเพิ่มเติมหรือทำการตรวจเพิ่มเติมด้วยเทคนิคอื่น ๆ

 

ชิ้นเนื้อจาก Core Biopsy ที่ควรต้องผ่าตัดออก หรือรักษา

1. มะเร็งเต้านม (B5): เช่น Invasive Ductal Carcinoma (IDC), Invasive Lobular Carcinoma (ILC) ให้ทำการรักษามะเร็งเต้านมตามระยะและชนิดของมะเร็ง

2. ชิ้นเนื้อที่น่าสงสัย (B4): เพื่อยืนยันการวินิจฉัยและป้องกันการเป็นมะเร็งในอนาคต การตรวจชิ้นเนื้อเพิ่มเติมหรือการผ่าตัด

3. ชิ้นเนื้อที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นมะเร็ง (B3): เช่น Atypical Ductal Hyperplasia (ADH), Lobular Carcinoma In Situ (LCIS) เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงต่อการพัฒนาเป็นมะเร็งเต้านมในอนาคต การผ่าตัดหรือการตรวจชิ้นเนื้อเพิ่มเติมช่วยในการวินิจฉัยและป้องกัน

4. ชิ้นเนื้อที่มีลักษณะพิเศษแต่ไม่เป็นมะเร็ง (Benign but with Special Features):

  • ตัวอย่าง:

    • Radial Scar: มีโอกาสที่จะเป็นมะเร็ง การผ่าตัดเพื่อยืนยันกันวินิจฉัย

    • Papilloma with atypia: มีความเสี่ยงต่อการพัฒนาเป็นมะเร็ง และมีโอกาสที่จะเป็นมะเร็ง การผ่าตัดเพื่อยืนยันการวินิจฉัย

    • Phyllodes Tumor: เนื้องอกชนิดนี้สามารถเป็นได้ทั้งชนิดที่ไม่ร้ายแรงและชนิดที่ร้ายแรง การผ่าตัดเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตและแพร่กระจาย

5. เนื้องอกชนิดอื่น ๆ (Other Lesions):

  • Sclerosing Adenosis: อาจทำให้เกิดความสับสนในการวินิจฉัย การผ่าตัดเพื่อยืนยัน

  • Fibroepithelial Lesion: เช่น Fibroadenoma ที่มีขนาดใหญ่หรือมีการเปลี่ยนแปลง

  • Fat Necrosis: การผ่าตัดอาจจำเป็นหากมีความสงสัยว่าเป็นมะเร็งจากภาพรังสี

  • Mucinous Lesion: เนื้องอกที่มีลักษณะพิเศษอาจต้องการการตรวจเพิ่มเติมหรือการผ่าตัด


สรุป

การแปลผลการตรวจชิ้นเนื้อเต้านมด้วยเข็มขนาดใหญ่ (Core Needle Biopsy) เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการวินิจฉัยมะเร็งเต้านม การรายงานผลการตรวจแบบ B1-B5 ช่วยในการจัดการและวางแผนการรักษาให้เหมาะสม การพิจารณาความสอดคล้อง (Concordance) และความไม่สอดคล้อง (Non-concordance) ของผลการตรวจเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ป่วยควรได้รับการติดตามผลอย่างใกล้ชิดและได้รับการดูแลที่ดีที่สุดเพื่อเพิ่มโอกาสในการรักษาให้ได้ผลดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดี

หมายเหตุ:: ไม่มีการรับประกันผลลัพธ์ที่ตายตัวและผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Comments


Commenting has been turned off.
bottom of page