top of page

ถั่วเหลืองกับมะเร็งเต้านม

ถั่วเหลืองกับมะเร็งเต้านม: ไขทุกข้อสงสัยด้วยข้อเท็จจริงจากงานวิจัย

ถั่วเหลือง มะเร็งเต้านม
อาหารจากถั่วเหลือง

ความเชื่อที่ว่าการบริโภคถั่วเหลืองอาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเต้านมเป็นเรื่องที่สร้างความสับสนมายาวนาน แต่ข้อสรุปจากงานวิจัยในมนุษย์ทั่วโลกยืนยันชัดเจนแล้วว่า การบริโภคผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองในรูปแบบอาหาร ไม่เพียงแต่ไม่เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเต้านม แต่ยังอาจมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงได้อีกด้วย


1. ทำไมถึงเคยมีความเชื่อผิดๆ?

ความกังวลในอดีตเกิดขึ้นจากสารในถั่วเหลืองที่ชื่อ ไอโซฟลาโวน (Isoflavone) ซึ่งมีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน จึงถูกเรียกว่า ไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogen) หรือเอสโตรเจนจากพืช งานวิจัยในยุคแรกๆ ที่ทำในสัตว์ทดลอง (เช่น หนู) พบว่าสารนี้อาจกระตุ้นการเติบโตของเซลล์มะเร็ง

ข้อเท็จจริง: ร่างกายมนุษย์มีการเผาผลาญไอโซฟลาโวนแตกต่างจากสัตว์ทดลองโดยสิ้นเชิง งานวิจัยขนาดใหญ่ในคนนับแสนรายทั่วโลกให้ผลตรงกันข้าม และพบว่าไฟโตเอสโตรเจนในถั่วเหลืองอาจมีกลไกป้องกันมะเร็งเต้านมด้วยซ้ำ


2. กลไกการทำงานที่แท้จริงในร่างกายมนุษย์

ไอโซฟลาโวนในถั่วเหลืองมีฤทธิ์เป็นเอสโตรเจนที่ อ่อนกว่าฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายหลายร้อยเท่า ลองจินตนาการว่าเซลล์ในร่างกายมี "ตัวรับ" เหมือนแม่กุญแจ ไอโซฟลาโวนจะเข้าไปจับกับตัวรับนั้น (เหมือนลูกกุญแจที่ไม่พอดี) ทำให้เป็นการ ขัดขวาง ไม่ให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนจริงของร่างกายซึ่งมีฤทธิ์รุนแรงกว่าเข้ามาจับและกระตุ้นเซลล์ได้เต็มที่ จึงอาจช่วยลดการเติบโตของเซลล์ที่ตอบสนองต่อฮอร์โมนได้


3. หลักฐานเชิงประจักษ์: ลดความเสี่ยงและปลอดภัยสำหรับผู้ป่วย

  • ลดความเสี่ยงในการเกิดโรค: งานวิจัยในประชากรเอเชียที่บริโภคถั่วเหลืองเป็นประจำ พบว่าอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมได้ 15–30% โดยเฉพาะเมื่อบริโภคต่อเนื่องมาตั้งแต่วัยเด็กและวัยรุ่น ซึ่งเป็นช่วงที่เต้านมกำลังพัฒนา

  • ปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านม: ข้อมูลล่าสุดจากงานศึกษาในผู้ป่วยมะเร็งเต้านม (Survivor Studies) ยืนยันว่า การบริโภคถั่วเหลืองในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ทำให้โรคกลับมาเป็นซ้ำ และไม่รบกวนผลการรักษา ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีแนวโน้มว่าอาจช่วย ลดอัตราการกลับเป็นซ้ำและเพิ่มอัตราการรอดชีวิต ได้อีกด้วย


4. คำแนะนำในการบริโภคอย่างชาญฉลาดและปลอดภัย

  1. เลือก "อาหาร" ไม่ใช่ "อาหารเสริม": ควรบริโภคถั่วเหลืองจากแหล่งอาหารตามธรรมชาติ เช่น เต้าหู้, นมถั่วเหลือง, น้ำเต้าหู้, ถั่วแระญี่ปุ่น (Edamame), เทมเป้, หรือมิโสะ ซึ่งปลอดภัยและมีสารอาหารอื่นที่เป็นประโยชน์ด้วย

  2. ปริมาณที่เหมาะสม: งานวิจัยชี้ว่าการบริโภคในระดับปานกลางมีความปลอดภัยและให้ประโยชน์ คือประมาณ 1-2 ส่วนต่อวัน (ตัวอย่าง 1 ส่วน: นมถั่วเหลือง 1 แก้ว, เต้าหู้ประมาณ 100 กรัม หรือ 1/2 ถ้วย)

  3. หลีกเลี่ยงอาหารเสริมเข้มข้น: ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภท "ไอโซฟลาโวนสกัด" ในปริมาณสูง เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลด้านความปลอดภัยในระยะยาวที่ชัดเจน หากเป็นผู้ป่วยหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานอาหารเสริมทุกชนิด


บทสรุป

  • การรับประทาน "อาหารจากถั่วเหลือง" ปลอดภัยทั้งสำหรับบุคคลทั่วไปและผู้ป่วยมะเร็งเต้านม

  • มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชัดเจนว่าอาจช่วย ลดความเสี่ยง การเกิดโรค และอาจ ลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำ

  • ควรเน้นการบริโภคในรูปแบบอาหารตามธรรมชาติในปริมาณที่พอเหมาะ และหลีกเลี่ยงอาหารเสริมไอโซฟลาโวนชนิดเข้มข้น

ดังนั้น สามารถรับประทานอาหารจากถั่วเหลืองเป็นส่วนหนึ่งของเมนูสุขภาพในชีวิตประจำวันได้อย่างสบายใจ

ความคิดเห็น


แพทย์โรงพยาบาลนมะรักษ์
bottom of page